การอนุรักษ์ผีเสื้อ
ผีเสื้อมีความสัมพันธ์กับพรรณไม้ได้อย่างัดเจน
เนื่องจากช่วงที่ผีเสื้อเป็นตัวหนอนนั้น
การกินใบไม้ของหนอนแต่ละชนิดจำเพราะเจาะจงกับใบไม้บางชนิดเท่านั้น เช่น หนอนของผีเสื้อหนอนมะนาวกินใบมะนาวหรือใบส้มเป็นอาหาร
หนอนของผีเสื้อลายตลกธรรมดากินใบตำแยช้างเป็นอาหารหากต้นไม้ชนิดนั้นๆ หมดไปในบริเวณหนึ่ง
ผีเสื้อก็จะหมดไปด้วย และหากไม้ชนิดนั้นสูญพันธ์
ผีเสื้อมีโอกาสที่จะสูญพันธ์ไปด้วย
นั่นหมายถึงว่าหากสภาพป่ายังคงมีความอุดมสมบูรณ์
หลากหลายไปด้วยพรรณไม้นานาชนิด ผีเสื้อก็ยังคงมีอยู่ให้เราพบเห็นได้โดยง่าย
นอกจากนี้การจับผีเสื้อมาใส่กรอบเพื่อการสะสม
หรือขายก็มีส่วนในการลดจำนวนของผีเสื้อด้วยเช่นกัน
เพาะถึงแม้ว่าผีเสื้อจะมีขนาดตัวที่เล็กไม่น่าจะมีประโยชน์กับธรรมชาติมากนัก
แต่ในระบบนิเวศ การพึ่งพาอาศัยกัน การเกื้อกูลกันนั้นมีอยู่ในทุกชีวิต
ผีเสื้อเมื่อเป็นหนอนแม้จะกัดกินใบไม้ แต่ก็เป็นอาหารของนก กิ้งก่า มวนเพชณฆาต
หรือปรสิตอื่นๆ เมื่อเป็นตัวเต็มวัยก็ช่วยผสมเกสรดอกไม้ ช่วยขยายพันธุ์พืชไปในตัว
เมื่อตายก็ตกเป็นอาหารของสัตว์ขนาดเล็ก เช่น มด หรือแมลงอื่นๆ
ผีเสื้อที่เป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง
ผีเสื้อและแมลงอื่นๆ
ทุกชนิดจัดเป็น “สัตว์ป่า” นับตั้งแต่มีการประกาศพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2535
ผีเสื้อหลายชนิดจัดเป็น “สัตว์ป่าคุ้มครอง”
เนื่องจากอยู่ในสภาวะใกล้สูญพันธุ์
โดยห้ามซื้อขายและห้ามมีไว้ในครอบครอง ผีเสื้อที่เป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง ได้แก่